Web
                        Analytics
9 มหาเศรษฐีหน้าใหม่แจ้งเกิดจาก AI

9 มหาเศรษฐีหน้าใหม่แจ้งเกิดจาก AI

03 Jul 2024   |    516


ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังพลิกโฉมโลกของเราอย่างรวดเร็ว และสร้างโอกาสใหม่ ๆ มากมาย ทำให้มูลค่าของทั้งบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากทั้งราคาหุ้น รายได้ และกำไร ส่งผลให้เหล่าเจ้าพ่อเทคโนโลยีร่ำรวยขึ้นไปอีก

เว็บไซต์นิตยสารฟอร์บส (Forbes) ได้เปิดเผยการจัดอันดับมหาเศรษฐีหน้าใหม่จำนวน 9 คน ที่แจ้งเกิดในวงการ AI หลังผ่านไปเพียงปีครึ่งที่ ChatGPT ประกาศความพิเศษให้โลกรู้ จน AI กลายเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกพูดถึง ในวันที่จะเป็นยุคทองของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังมาแรง

รายชื่อ 9 มหาเศรษฐีหน้าใหม่แจ้งเกิดจาก AI

1. ฮาร์วีย์ โจนส์ (Harvey Jones)
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1 พันล้านดอลลาร์

โจนส์ ไม่ได้เป็นเพียงนักลงทุนและผู้ประกอบการธรรมดา แต่เขาคือผู้มีวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกล มองเห็นศักยภาพของ Nvidia ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น ในฐานะสมาชิกคณะกรรมการผู้ก่อตั้ง โจนส์มีส่วนร่วมสำคัญในการขับเคลื่อนบริษัทให้กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการ์ดจอ

แม้จะถือหุ้น Nvidia เพียง 0.03% แต่ด้วยความเชื่อมั่นและการลงทุนในระยะยาว โจนส์ก็กลายเป็นหนึ่งในผู้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการพุ่งทะยานของราคาหุ้น Nvidia มูลค่าที่เพิ่มขึ้นถึง 300% ในปีที่ผ่านมา

2. แซม อัลท์แมน (Sam Altman) | อดีต CEO ของ OpenAI
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1 พันล้านดอลลาร์

อัลท์แมนไม่ได้ร่ำรวยจากการถือหุ้นในบริษัทที่เขาก่อตั้ง แต่เขาสร้างความมั่งคั่งจากการลงทุนที่ชาญฉลาดในอดีตในฐานะอดีตประธานของ Y Combinator ศูนย์บ่มเพาะสตาร์ทอัพชื่อดัง อัลท์แมนมีสายตาที่เฉียบแหลมในการคัดเลือกบริษัทที่มีศักยภาพสูง เขาลงทุนในบริษัทหลายแห่งที่ต่อมาเติบโตเป็นบริษัทมหาชนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เช่น Stripe แพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์, Reddit เว็บไซต์ข่าวสังคมออนไลน์ และ Helion สตาร์ทอัพพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชัน

3. มิเชล แซตลิน (Michelle Zatlyn | ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Cloudflare
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.2 พันล้านดอลลาร์

Cloudflare บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นนำจากซานฟรานซิสโก กำลังใช้พลังของ AI ปกป้องลูกค้าของตนจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แซตลิน นำวิสัยทัศน์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี นำพา Cloudflare กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้

4. ลิซ่า ซู (Lisa Su) | CEO ของ Advanced Micro Devices (AMD)
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.3 พันล้านดอลลาร์

ซู ได้กอบกู้ AMD บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่กำลังดิ้นรน ให้กลับมายืนหยัดอีกครั้ง ภายใต้การนำของเธอ AMD กลายเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรม AI หุ้นของ AMD พุ่งขึ้นมากกว่า 60 เท่า นับตั้งแต่เธอเข้ารับตำแหน่งในปี 2557

5. เบร็ตต์ แอดค็อก (Brett Adcock) | ผู้ก่อตั้งและCEO ของ Figure
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.4 พันล้านดอลลาร์

แอดค็อก มุ่งมั่นพัฒนา"หุ่นยนต์อเนกประสงค์แบบมนุษย์" ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ก่อตั้ง Figure ในปี 2565 ระดมทุนได้ 675 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนชั้นนำ

6. อีวาน จ้าว (Ivan Zhao) | ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Notion
มูลค่าสุทธิ: 1.5 พันล้านดอลลาร์

อีวาน จ้าว และไซมอน แลสต์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Notion บริษัทสตาร์ทอัพซอฟต์แวร์ด้าน productivity เคยเผชิญวิกฤต แต่ด้วยความมุ่งมั่น พวกเขาพลิกฟื้นธุรกิจ ปัจจุบัน Notion กลายเป็นหนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก

7. ชุนซากุ ซากามิ (Shunsaku Sagami ) | ผู้เชี่ยวชาญด้าน M&A
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ: 1.9 พันล้านดอลลาร์

ซากามิ จับคู่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง (SMBs) กับผู้ซื้อที่เหมาะสม ผ่านแพลตฟอร์มที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

8. กวัก ดงชิน ราชาแห่งธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2.9 พันล้านดอลลาร์

ดงชิน ผู้อยู่เบื้องหลัง ฮันมิ เซมิคอนดักเตอร์ ผู้ผลิตอุปกรณ์บรรจุภัณฑ์ชิป ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในยุค AI

9. ชาลส์ เหลียง ผู้บุกเบิกฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 6.1 พันล้านดอลลาร์

เหลียง ผู้ร่วมก่อตั้งซูเปอร์ไมโครคอมพิวเตอร์ ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์และระบบจัดเก็บข้อมูลที่โด่งดังในหมู่บริษัท AI และคลาวด์คอมพิวติ้ง

บริษัทปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของเอกชนประสบความสำเร็จ โดยตัวเลขการระดมทุนของบริษัทสตาร์ทอัพที่เน้น AI ในปีที่แล้วสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ เงินทุนจำนวนมากสำหรับบริษัท AI เอกชนส่วนหนึ่งมาจากยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีดั้งเดิมอย่าง Microsoft, Amazon และ Alphabet ซึ่งหวังที่จะชนะใน สนามรบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังดุเดือด

ทั้งนี้ยังไม่มีใครบอกได้แน่ชัดว่า ฟองสบู่ของวงการ AI จะแตกหรือเงินทุนจะเหือดแห้งลงเมื่อไหร่ แต่ก็เริ่มมีสัญญาณเตือนบางอย่าง “Inflection AI” บริษัทที่ร่วมก่อตั้งโดยนักลงทุนมหาเศรษฐี Reid Hoffman ยุติการพัฒนาแชทบอทของบริษัท และผู้ร่วมก่อตั้งอีกสองคนพร้อมนักวิจัยคนอื่น ๆ ลาออกไปทำงานด้าน AI ที่ Microsoft ในเดือนมีนาคม

บลป.Deepscope ได้ใช้ AI เป็นตัวขับเคลื่อนในการวิเคราะห์ข้อมูลด้านการลงทุนในหุ้น ,
แก้ปัญหาที่ยากๆ เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจของนักลงทุน AI ของเรายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ให้เครื่องมือ *ฟรี* ของเรา ช่วยเซฟเวลาให้ท่านได้
ลองใช้งานเลยที่นี่ 👉 https://bit.ly/3SHKdb4


แหล่งข้อมูล
mckinsey.com/capabilities/quantumblack/our-insights
nytimes.com/spotlight/artificial-intelligence
bangkokbiznews.com/world/1122370


Share this article: